ว่างๆ จากสอนสร้างแอพ iOS และ Android ด้วย Ionic Framework, MEAN Stack, และ React Native ช่วงนี้ โค้ชพลกำลังสนใจเทคโนโลยีตัวหนึ่งอ่ะ
ส่วนตัวเลย มันคือ Apple Watch
Apple Watch เหมือนเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่รัดข้อมือได้ ถึงแม้ปัจจุบันความสามารถจะไม่เทียบเท่ารุ่นพี่อย่าง iPhone แต่มันก็มีนัยสำคัญที่เราสามารถทำทุกอย่างได้จากข้อมือ และอาจจะทำได้เร็วกว่าด้วย
เปิดอบรม React Native สำหรับผู้เริ่มต้น
ปูพื้นฐาน React และ React Native เข้าใจง่าย, ใช้ได้จริง, เนื้อหาใช้ในการทำแอพ Enterprise ขององค์กรได้
ทีนี้หลายๆ คนที่ติดตามการบรรยายของโค้ช น่าจะรู้จักการทำงานของ React Native กันไปแล้ว
ซึ่งโครงสร้างของมัน เอื้ออำนวยต่อการต่อยอดจากการพัฒนา Mobile App มาทำ Apple Watch อย่างมาก
หลังจากหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ๆ ได้ข้อมูลน่าสนใจดังนี้ครับ
1. กฎที่เปลี่ยนไปใน iOS 8.2
อ้างอิงจากคำถามใน Quora ที่มีคนถามว่า “Apple คิดอย่างไรกับการมาถึงของ React?”
(React เป็น Web framework ที่คิดโดยบริษัท Facebook มีความยืดหยุ่นสูง ติดตามข่าวของ React ต่างๆ ได้จาก Fan Page และข่าวก่อนหน้านี้ที่นี่)
โดยคนตอบคือ Scott Goodson เป็น Senior Engineer ของทีมพัฒนาแอพ iOS ฝั่ง Facebook ครับ
โดย Scott บอกว่า
ตั้งแต่ iOS 8.2 ทาง Apple ได้เปิดให้แอพ iOS สามารถดาวน์โหลดส่วนที่ทำงานได้เพิ่มเติม (executble code) มาติดตั้งได้ ถึงแม้ว่าจะผ่านการรีวิว และติดตั้งลงเครื่องผู้ใช้ไปแล้ว
ตราบใดที่มันทำงานอยู่ในส่วนของ JavascriptCore และไม่ได้เปลี่ยนจุดประสงค์เดิมของแอพ (does not materially change the purpose of the app)
และ Scott ยังยกคำกล่าวของ Andy Matuschak ที่อยู่ในทีมพัฒนา UIKit ของ iOS ตั้งแต่รุ่น 4.1 – 8 ว่า
I say with confidence as a former UIKit author: React’s model for the UI layer is vastly better than UIKit’s. React Native is a huge deal.
— Andy Matuschak (@andymatuschak) January 28, 2015
โดยชี้ให้เห็นว่าการออกแบบระบบของ React ดูน่าสนใจมาก และ React Native ก็มาถูกทางแล้ว
ดังนั้นหากระบบ iOS พัฒนาไปในทิศทางเดียวกับแนวคิดของ React ของ Facebook การส่งผ่านการพัฒนาไปสู่ Apple Watch ก็มีโอกาสมากขึ้น
2. แนวคิดของ React เปิดกว้างสำหรับระบบ Native App ใหม่ๆ
React เป็นแนวคิดที่ดีมากๆ มันคือแนวคิดในการสร้างทุกอย่างด้วยการแบ่งเป็น “ตัวต่อเลโก้” (Component) ที่สามารถต่อเข้าด้วยกันได้ไม่สิ้นสุด
ซึ่งระบบ Component สามารถต่อยอดในการ “แปลง” ส่วนติดต่อผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) ใน React ให้กลายเป็นระบบ Native UI บนระบบนั้นจริงๆ อย่าง iOS และ Android
และเมื่อมาถึง React Native นั้นน่าสนใจตรงที่ Javascript สามารถทำงานเป็นอิสระจากส่วนของ UI ด้วย ดังนั้นการใช้ React ในการสร้างแอพแบบ Native จึงมีประสิทธิภาพที่สูงพอตัว
ดังนั้นตรงส่วนนี้นี่แหละ ที่หากเราต้องการสร้าง Component ที่เป็นตัวแทนของ WatchKit (ชุดคำสั่งสำหรับนักพัฒนาในการสร้างแอพ Apple Watch) ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับ React Native
สรุป
มีการเอ่ยถึงแผนการที่ React Native สามารถต่อยอดการทำแอพ iOS ไปสู่การทำแอพสำหรับ Apple Watch ก่อนหน้านี้แล้ว และนอกเหนือจากโครงการที่ทีม React กำลังทำ Native Component สำหรับ Android ทิศทางนี้เป็นสิ่งที่โค้ชเกาะติดเป็นอย่างยิ่งครับ
จริงๆ มี Javascript framework 2 ตัวแล้ว ที่เริ่มมีท่าที จะทำให้ตัวเองสามารถพัฒนาแอพที่ทำงานนอก Mobile platform อย่าง iOS หรือ Android ได้
ไว้คืบหน้าแล้วโค้ชพลจะมาคุยกันอีกทีเนอะ
แต่ Apple Watch มันแพงจังง่ะ T T
ปูพื้นฐาน React และ React Native เข้าใจง่าย, ใช้ได้จริง, เนื้อหาใช้ในการทำแอพ Enterprise ขององค์กรได้เปิดอบรม React Native สำหรับผู้เริ่มต้น