ในปี 2016 ที่กำลังจะมาถึง Adobe ก็มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ อย่างโปรแกรมที่พวกเราชาวไทยคุ้นเคยอย่าง Adobe Flash Professional CC ก็มีอันเปลี่ยนชื่อเพื่อรองรับความต้องการใหม่ๆ ของโลกสมัยใหม่ในชื่อ Adobe Animate CC ครับ
ยุคของ Flash ที่รุ่งเรือง
ใน 10 ปีที่ผ่านมา น้อยคนที่เล่นเว็บ จะไม่รู้จัก Flash เพราะมันเคยได้ชื่อเป็นระบบ ที่มีโปรแกรมสร้างแอนิเมชั่น และอินเตอร์แอคทีฟได้ง่ายๆ ใช้ทำตั้งแต่สื่อการสอน ยัน Kiosk สนามบิน แถมป้ายโฆษณาออนไลน์ (Ads) จนถึงเกมส์ออนไลน์บน Facebook ทั้งหมดในช่วงเวลานั้นใช้เทคโนโลยี Flash เป็นหลัก
Flash เป็นเทคโนโลยีของบริษัท Macromedia ต่อมาถูกเข้าซื้อโดย Adobe และพัฒนาโครงสร้าง และความสามารถจนถึงขีดสุด โดยรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง ActionScript 3 หรือ การแสดงผล 3 มิติ (Stage 3D)
ซึ่งต่อมาโดนยุคของอุปกรณ์พกพา (Mobile Device’s Era) เทคโนโลยี Flash ค่อยๆ ถูกบดบังด้วยเทคโนโลยีที่เปิดกว้างอย่าง HTML 5 และระบบบนอุปกรณ์พกพานี่เองที่ไม่รองรับ Flash เป็นสาเหตุหลัก (เอาจริงๆ นะ HTML5 มันก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่หรอก คนทำด้านนี้จะรู้ว่ามันค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเทียบความรวดเร็วและทรงพลัง Flash ก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ อยู่ เพียงแค่มันเปิดดูผ่านเว็บเบราเซอร์บนอุปกรณ์พกพาไม่ได้นั่นเอง)
จนในช่วงสุดท้ายนี้ Adobe เริ่มเพิ่มความสามารถให้ Adobe Flash Professional ให้สามารถ export ไฟล์ออกมาเป็น HTML 5, JavaScript, และ WebGL ได้บ้าง พร้อมกับสร้างโปรแกรมคู่ขนานขึ้นมาอีกตัวชื่อ Adobe Edge Animate CC เพื่อรองรับความต้องการ HTML Animation ในยุคปัจจุบัน
ตอนนี้ก็ได้เวลาอันสมควรที่โปรแกรม Adobe Flash Professional จะสลัดภาพเดิมๆ ที่ติดกับเทคโนโลยีหนึ่งเดียวอย่างแต่ก่อน และสยายปีกรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในชื่อ Adobe Animate CC แล้ว
ก่อน Flash Professional จะถึงจุดนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
- ปรับปรุง Bone Tool ในการทำแอนิเมชั่น
- รองรับการทำ Sprite Sheet สำหรับคนทำเกมส์ หรือเว็บ
- นำไฟล์วิดีโอเข้ามาใช้ และตัดไฟล์เสียงได้โดยตรง (Audio Splitting) ในโปรแกรม
- รองรับการสร้าง HTML5 Ads ตามมาตรฐาน Interactive Advertising Bureau (IAB)
- รองรับการทำงานกับมาตรฐานกลางของเว็บ:
- WebGL
- Export เป็น SVG ได้
- JavaScript อย่าง CreateJS
- ปรับแต่ง Brush ได้อย่างอิสระ (Custom Brushes)
- ปรับแต่งความกว้างของ Stroke ได้อิสระ (Variable-width)
ความสามารถอื่นๆ สามารถดูได้จาก Adobe New feature
รู้จักกับ Adobe Animate CC
Adobe ตั้งชื่อใหม่ให้ Flash Professional CC เป็น Adobe Aniamte CC และเพิ่มความสามารถเพื่อรองรับความต้องการในการใช้งานแอนิเมชั่นในปัจจุบันที่หลากหลายมากขึ้น
โค้ชพลสรุปเป็นข้อๆ ให้ดังนี้
1. ด้านการสร้างสรรค์ผลงาน
- Vector Brush: ปรับแต่งได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกลัวแตก และนำงานจาก Adobe Capture CC มาใช้งานได้
- 360 Canvas: ปรับหมุน Canvas ได้ 360 องศา (ใช้กับ Wacon Cintiq ได้ด้วยนะ)
- ปรับปรุงการทำงานของ Pencil และ Brush ให้วาดและแสดงผลได้เร็วขึ้น
- ปรับปรุงการทำงานเกี่ยวกับไฟล์เสียง (Audio)
- เปลี่ยนสีได้อย่างรวดเร็ว อันนี้โค้ชพลสนใจมาก เพราะเราสามารถตั้ง tag สีและเปลี่ยนใช้ทั้งโปรเจคได้เลย
- Colored Onion Skinning: จัดการคุณสมบัติสี และความโปร่งแสงได้อย่างอิสระ
2. ด้านการทำงานร่วมกับ CreativeSync
- เชื่อมต่อกับ Adobe Stock เพื่อเข้าถึงงานภาพถ่าย, ภาพวาด, รวมถึงภาพ Vector ต่างๆ
- เชื่อมต่อกับ Creative Cloud Library เพื่อนำชุดสี, ภาพ Vector, รวมถึง Brush ที่สร้างจากแอพ Adobe Capture
3. ด้านการนำตัวงานไปใช้ (Output Capabilities)
- รองรับการสร้างเป็นฟอร์แมตต่อไปนี้:
- HTML5 Canvas
- WebGL
- Flash (SWF)
- AIR
- ส่วนเสริมอื่นๆ เช่น SVG (ผ่านระบบ Extension)
- รองรับการ export เป็นไฟล์วิดีโอ รองรับสูงสุด 4K ในปัจจุบัน
- รองรับการ export เป็นไฟล์ OAM (แบบเดียวกับ Adobe Edge Animate CC) เพื่อนำไปใช้ใน Adobe Muse, InDesign, DPS, และ Dreamweaver
ในโอกาสนี้ทาง Adobe ก็ได้วางกำหนดการเดโม Sneak Peek บนระบบ Twitch เพื่อโชว์การทำแอนิเมชั่น และการสร้างเกมส์จาก Adobe Animate CC สามารถดูกำหนดการได้ที่นี่ครับ
น่าตื่นเต้นจริงๆ อย่าลืมติดตามข่าวได้ที่แฟนเพจ ThaiADC และ Nextflow และวิดีโออัพเดตได้ที่ YouTube กันนะครับ
เหมาะสำหรับคนทำเว็บ, เริ่มต้น JavaScript ES6 และ Angular เข้าใจง่าย, ใช้ได้จริง สอบถาม หรือติดต่อจัดอบรมโทร 083-071-3373 โปรหน้าฝน! เรียนรอบสด รับคอร์สออนไลน์มูลค่ากว่า 5800 บาทฟรี!เปิดอบรมสร้าง Cross Platform Mobile Application ด้วย Ionic Framework