สวัสดีครับ วันนี้พลจะมาแนะนำแนวทางการจัดการ IT Solution ใน Power Platform ที่ใช้ Dataverse เก็บข้อมูลควบคู่กับระบบเดิมในองค์กรที่ใช้ Microsoft SQL Server จัดเก็บข้อมูล ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้พวกเราสามารถทำงานกับข้อมูลจากระบบเดิมมาใช้งานได้ง่ายขึ้น และยังสามารถปรับแต่ง solution ได้ตามความต้องการตามสไตล์ Power Platform อีก
ที่มีโอกาสมาแชร์เรื่องนี้ เพราะลูกค้าของพลส่วนใหญ่ที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษา ก็ใช้ฐานข้อมูล Microsoft SQL Server และกำลัง migrate มาใช้งานระบบ low code no code อย่าง Power Platform ครับ
Dataverse คืออะไรนะ?
สำหรับพวกเราที่อาจจะกำลังมอง low code no code ที่มาจากฝั่ง Microsoft Power Platform ก็จะขอสรุปสิ่งที่เรียกว่า Dataverse Dataverse กระชับๆ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
Dataverse คือระบบจัดเก็บข้อมูลของพวกแอพ และ IT Solution ของเรานั่นเอง (ถ้าเทคนิคหน่อย ก็คือ ระบบฐานข้อมูล Database ครับ) แต่ออกแบบมาให้ยืดหยุ่นต่อการเอาไปปรับใช้ให้ตอบโจทย์ และไม่จำเป็นต้องเป็นคนเขียนโปรแกรมก็สามารถใช้งานได้ง่าย
อ่าว แล้วไม่ต้องใช้ Microsoft SQL Server แล้วหรอ?
ทีนี้พอเราสร้างแอพจาก Power Platform แล้ว หลักๆ เขาจะออกแบบใช้แอพเรา จัดเก็บเรียกใช้ข้อมูลจาก Dataverse ได้ง่าย
ดังนั้นถ้าเป็นการสร้าง Solution ใหม่เลยที่ไม่เกี่ยวกับระบบเก่า มันก็ดูไม่มีปัญหาใช่ไหม?
แต่ในความเป็นจริงแล้ว องค์กรส่วนใหญ่ก็จะมีการเก็บข้อมูลใช้งานในระบบ IT อยู่แล้ว และหนึ่งในระบบฐานข้อมูลที่ใช้กันเยอะก็คือ Microsoft SQL server
แล้วเราจะทำให้ Application สามารถทำงาน และใช้งานข้อมูลทั้งจาก Dataverse กับ Microsoft SQL Server อย่างไร?
มาดูกันเลย
1. Data Integrator Project (Power Platform จัดให้)
Data Integrator โปรเจค การเก็บข้อมูลควบคู่กับระบบเดิมในองค์กรที่ใช้ Microsoft SQL Server จัดเก็บข้อมูล เป็นวิธีที่ช่วยให้พวกเราสามารถนำข้อมูลจาก SQL Server มาใช้ใน Dataverse โดยไม่ต้อง copy หรือ migrate ข้อมูล เพียงแค่ใช้ Data Integration Project เพื่อ map entity และ field ที่ต้องการจาก SQL Server database เข้ากับ Dataverse table และกำหนด schedule การ sync data
วิธีนี้ดียังไงอ่ะ?
เป็นคำถามที่หลายคนอาจจะสงสัย เพราะทำไมไม่ copy หรือ migrate data เลยจะได้ไม่ต้อง sync data?
เหตุผลหลักคือการ copy หรือ migrate data เป็นกระบวนการที่เสียเวลาและทรัพยากร เพราะข้อมูลจำนวนมากอาจจะไม่ได้ใช้หมดใน Dataverse solution และยังเป็นการ duplicate data ที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่อง data quality, security, compliance, governance, cost ตามมาอีกมากมาย
ขั้นตอนหลักๆ ในการใช้ Data Integrator ก็จะมี
- สร้าง Connection Set
- เลือก Template ที่เหมาะสมกับเคสของเรา หรือถ้าไม่มีก็สร้าง Template เองได้เลย
เนื่องจากมีลักษณะของงานแบบนี้เยอะ พลก็มี Workshop 2 วัน สำหรับคนที่สนใจจัดให้กับทีม Power Platform ของตัวเอง แต่ถ้าสนใจเรียนรู้ด้วยตัวเองก็มีเนื้อหาอยู่บน Microsoft Learn ที่นี่ครับ
2. Custom Solution (อันนี้เราจัดเอง)
หาก Data Integrator Project ไม่ตอบโจทย์ของเรา อันนี้พวกเราก็สามารถใช้สิ่งที่มีให้ใน Power Platform อย่าง Dataverse Virtual Table หรือ Automate flow จัดการเอง
ซึ่งพลโน๊ตไว้ด้านล่าง ว่าส่วนไหนเอามาใช้
- Virtual Table ใน Dataverse
- ไม่มีการถ่ายโอนข้อมูลจากต้นทาง (Microsoft SQL Server) มาไว้บน Dataverse ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลเดิมที่อาจมีมหาศาล
- ทำให้สามารถ integrate เข้ากับ Power App, Power Automate, Power Virtual Agent และ Power Page ได้โดยง่าย เพราะเสมือนข้อมูลจาก Microsoft SQL server อยู่บน Dataverse แล้ว
- มีจุดที่ไม่ควรลืม คือมันทำได้เฉพาะขาอ่านข้อมูล (Read) อย่างเดียวนะ
- Power Automate flow ในการอัพเดตข้อมูลบน SQL Server โดยตรง
- ส่วนนี้ตรงไปตรงมา เราสามารถสร้างกลไกการแก้ไข, เพิ่ม, ลบข้อมูลจาก Power Platform solution ให้มีผลกับข้อมูลบน MS SQL server โดยตรง
- ต้องสร้าง connector นะอันนี้ตรงไปตรงมา
- ควรพิจารณาให้ดีในแง่ของ Solution Architect ว่าเหมาะกับเคสการใช้งานจริงแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องใช้ท่าอื่น
- Azure Data Factory
- อันนี้มีการเอามาใช้ในบาง use case เหมือนกัน
- ใช้ในกรณีที่การ sync หรือ update ข้อมูลไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นทันที (Schedule job) หรือใช้ในกรณีที่ซับซ้อนเกินกว่าที่จะให้ Pro user ทำผ่าน Power Automate
- เนื่องจากเป็นการเอาระบบอื่นมาใช้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะ Solution Architect ต้องดูให้ดีครับ
สรุปกระชับๆ
เครื่องมือที่ดี หาได้เกิดจากโปรแกรมเดียวครอบจักรวาลไม่ แต่หากประกอบขึ้นมาอย่างเหมาะสม และใส่ใจ ที่ว่ามาด้านบน ก็คือการนำพื้นฐานและความเข้าใจของเครื่องมือหลัก มาประยุกต์เพื่อตอบโจทย์องค์กรธุรกิจ และมันใช้งานได้ผลตามต้องการจากประสบการณ์ของพลเท่านั้น
ของเราอาจจะแตกต่างจากนี้ ก็ไม่ผิดน้า
หากใครมีไอเดีย หรือมีท่า solution อื่นๆ ก็มาแลกเปลี่ยน พูดคุยกันได้ครับ