Capacitor ถูกวางตัวเป็น Runtime รุ่นต่อไปถัดจาก Cordova มาได้หลายเดือนแล้ว และ Capacitor รุ่นแรก โค้ชพก็ทำคลิปวิดีโออธิบายการทำงานไว้ที่นี่
มาถึงวันนี้ก็ได้ฤกษ์ของ Capacitor 2 กันแล้วครับ มาดูพร้อมๆ กับพลดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
รองรับ และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ
แน่นอนว่า การอัพเดตของเครื่องมือในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบ Cross Platform แต่ละรอบนั้น ต้องมาพร้อมกับการรองรับเวอร์ชั่นใหม่ๆ ของระบบปฏิบัติการบน Smart phone ของเรา หรือไปถึงโปรแกรมแบบ Native ด้วย
สำหรับ iOS: รองรับ Swift 5 และ Xcode 11 ขึ้นไป
- รองรับภาษา Swift เวอร์ชั่นที่ 5
- รองรับโปรแกรม Xcode 11 เป็นต้นไป
- ไฟล์แอพมีขนาดเล็กลง
- ใช้ความสามารถของโปรแกรมฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้
- รองรับการทำงานกับ Swift เวอร์ชั่นก่อนหน้าด้วย
รองรับ Sign In with Apple
Apple ได้นำเสนอระบบ Sign In with Apple ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยในการสร้างบัญชีเพื่อลงชื่อเข้าใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปอย่างเราๆ
โดยการทำงานแบบภาพรวมคือ Apple จะทำการสร้าง username และ password สำหรับการเปิดบัญชีใช้งานออนไลน์บนเว็บไซต์ที่ต้องการ และเข้ารหัสพร้อมจัดเก็บบัญชีที่ว่าให้
ทำให้เราสามารถเข้าใช้งานบริการออนไลน์ต่างๆ ได้ โดยที่ผู้ให้บริการก็ไม่รู้ด้วยว่าเราเป็นใครสะดวกไปอีก
ที่อธิบายมาทั้งหมด ก็คือ Capacitor 2 รองรับ Sign in with Apple ผ่าน Sign In with Apple plugin แล้วครับ 🙂
สำหรับ Android: รองรับ Android 10 (SDK 29) และ Android X
- เนื่องจากใช้ Android 10 จึงรองรับความสามารถของระบบความปลอดภัย และ biometric ใหม่ๆ
- รองรับความสามารถด้านวิดีโอ และเสียง
- รองรับ Dark mode
- รองรับการทำงานกับ Android X (ระบบ Android Support Library ใหม่) เพื่อทำงานกับ plugin ของ Android ที่รองรับ Android X ไปก่อนหน้านี้ได้
เครื่องมือต่างๆ ที่อัพเดตใน Capacitor 2.0
- อัพเดต 23 Plugin หลักของ Capacitor ใช้งานง่ายขึ้น
- รองรับ cordova-res (ไชโย นี่คือตัวที่ใช้ในการสร้างไฟล์ไอคอน และ Splash screen อัตโนมัติใน Ionic Cordova)
- รองรับ Android Face Unlock และ Iris Unlock ผ่าน Ionic Identity Vault
วิธีติดตั้ง และใช้งาน cordova-res ในโปรเจค Capacitor
สามารถรันคำสั่งด้านล่างเพื่อติดตั้งลงโปรเจคที่ใช้ Capacitor ได้เลย
npm i -g cordova-res
cordova-res --skip-config --copy
อัพเดตเกี่ยวกับการสร้าง Desktop App ด้วย Electron
ส่วนของการสร้างแอพ Desktop ด้วย Electron ตอนนี้ กลับมาอยู่ในสถานะเบต้า และคาดว่าจะออกตัวสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในปีนี้
วิธีอัพเดตที่แสนง่าย
สำหรับพวกเราที่มีการเอา Capacitor ไปใช้ในโปรเจคก่อนหน้านี้ ลืมความโหดร้ายของการ migrate ไปได้เลย เพราะเราสามารถทำส่วนนี้ได้ง่ายมาก ตามคำสั่งด้านล่างเลยครับ
อย่างแรก อัพเดตแกนหลัก และ CLI ของ Capacitor ก่อน
cd your-app-folder
npm update @capacitor/cli
npm update @capacitor/core
จากนั้นเราค่อยมารันคำสั่งอัพเดต Library ของ Capacitor กัน
npm install @capacitor/ios@latest
npx cap sync ios
npm install @capacitor/android@latest
# Within Android Studio, click “Sync Project with Gradle Files” button
cd electron
npm install @capacitor/electron@latest
ส่วนที่เหลือ แต่ทำตามขั้นตอนที่แยกเอาไว้ให้ ในแต่ละ platform กันครับ
อย่างลืมติดตามอัพเดตต่อไปได้ตามช่องทางต่อไปนี้
- ติดตามจากแฟนเพจ Nextflow
- กดติดตามคลิปใหม่ๆ Subscribe YouTube Channel ของพลได้เลย
- โทรติดต่อบริการจัดอบรม 083-071-3373 คลิกโทรผ่านมือถือได้เลย
- สอบถามผ่านทาง LINE คลิก
- สอบถามผ่านทาง Facebook คลิก
เปิดอบรมสร้าง Cross Platform Mobile Application ด้วย Ionic Framework
เหมาะสำหรับคนทำเว็บ, เริ่มต้น JavaScript ES6 และ Angular เข้าใจง่าย, ใช้ได้จริง
สอบถาม หรือติดต่อจัดอบรมโทร 083-071-3373
โปรหน้าฝน! เรียนรอบสด รับคอร์สออนไลน์มูลค่ากว่า 5800 บาทฟรี!
คอร์สออนไลน์เริ่มต้นสร้าง Mobile App ด้วย Google Flutter
เหมาะผู้เริ่มต้น และนักพัฒนาเว็บ, เข้าใจง่าย, ใช้ได้จริง
สอบถาม หรือติดต่อจัดอบรมโทร 083-071-3373