Google Flutter ในเวอร์ชั่น Beta 3 นั้น มีการเสริมส่วนประกอบที่มีนัยสำคัญ ทำให้การพัฒนา Mobile Application ด้วย Flutter นั้นสะดวกกว่าเดิม
เรามาทำความเข้าใจภาพรวมง่ายๆ กับการเปลี่ยนแปลงนี้กันครับ
Dart 2 เพื่อความสะดวกสำหรับนักพัฒนา
เป็นที่รู้กันว่า Google Flutter นั้น ใช้ภาษา Dart เขียนเป็นหลัก ซึ่งเมื่อต้นปีทาง Google ก็ได้อัพเดต Dart เป็นเวอร์ชั่นที่ 2 ซึ่งเน้นมาที่การพัฒนาส่วน Client ด้วย
โดยความสามารถสำคัญที่เพิ่มเข้ามาใน Dart 2 ก็คือ Strong Type ซึ่งจะทำให้นักพัฒนาพบความผิดพลาดของโค้ดตัวเองตั้งแต่ตอน Compile แทนที่จะไปโป๊ะเช้ะตอนรันแอพพลิเคชั่นใช้งานนั่นเอง
ความสามารถใหม่ที่รองรับ
แนวทางของ Google Flutter ยังคงอยู่เหมือนเดิม (ลองกลับไปดูได้ในคลิปที่โค้ชพลทำไว้) ทำให้ใน Beta 3 ตัว Flutter มีความสามารถใหม่ๆ ในภาพรวมดังนี้
- รองรับการทำ Localization สำหรับภาษาที่อ่านจากขวาไปซ้าย
- รองรับการทำ Accessibility มากกว่าเวอร์ชั่นก่อน
- มี Widget Inspector ทำให้เห็นโครงสร้าง UI ขณะพัฒนา
- รองรับโฆษณาผ่านระบบ Firebase
- รองรับ Visual Studio Code เป็น Editor ระดับแถวหน้าแล้ว
- ประกาศรองรับ Material Design ซึ่งทีม Flutter และ Material Design จะทำงานร่วมกันเพื่อนำ UI ใหม่ๆ มาใช้ใน Flutter
รายละเอียดปลีกย่อยศึกษาได้จากโพสของคุณ Tim Sneath ที่นี่
เป้าหมายที่จะรองรับ
แน่นอนว่า Google กำลังปรับปรุง Flutter ตามทิศทางที่ให้ไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์กันยกใหญ่ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้แนวทางที่จะทำออกมาแล้ว 3 ส่วนด้วยกัน
- ประสิทธิภาพและขนาด (Performance & size)
- การรองรับอุปกรณ์รุ่นเก่า (Compatibility) เป้าหมายเพื่อรองรับอุปกรณ์ 32-bit และ Widget ระบบ iOS รวมถึงการนำ Flutter ไปใช้ในแอพ iOS และ Android แบบ Native
- การทำงานร่วมกับระบบอื่นของ Google (Ecosystem) โดยออก API ที่รองรับการทำงานกับระบบ Google เพื่อการพัฒนาที่ง่ายขึ้น
สนใจเรียนรู้ Google Flutter เพื่อใช้พัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบ Native ได้ทั้ง iOS และ Android
เรามีบริการทั้งแบบรอบมาลงทะเบียนเรียน ซึ่งจะได้ปูพื้นฐาน จนถึงได้แนวทางในการพัฒนาแอพแบบต่างๆ ดูกำหนดการได้จากส่วน Event ของแฟนเพจ
และแบบบริการจัดอบรมให้ทีมถึงบริษัทและองค์กรต่างๆ โดยสามารถปรับเนื้อหาให้อิงกับที่จะนำไปใช้ได้ด้วย
สนใจทักมาทางแฟนเพจ Nextflow หรือโทรติดต่อ 083-071-3373 ได้ในเวลาทำการครับ