Google Flutter กับของอัพเดตใหม่ใน Release Preview 2

วันนี้ในงาน Google Developer Days ในประเทศจีน ทาง Google ได้ปล่อย Release Preview 2 ของ Flutter ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสร้าง Native User Interface สำหรับการพัฒนาแอพ Android กับ iOS แล้วครับ

วิธีการอัพเดต Flutter ในเครื่อง

ถ้าเรามี Flutter SDK ในเครื่องอยู่แล้ว ก็สามารถรันคำสั่ง ด้านล่างเบาๆ ผ่านโปรแกรม Command Prompt, Powershell, หรือ Terminal ได้เลย

ซึ่งต้องนี้เราต้องมี Flutter SDK ติดไว้ในเครื่องก่อนนะ ถ้าอยากจะเริ่มต้น ก็สามารถกดดู และติดตามซีรี่ย์สอนพื้นฐานได้ที่นี่ 

เอาล่ะหลังจากอัพเดตแล้ว มาดูกันว่ามีอะไรใหม่มั่ง

พลดูแล้วสรุปออกมาได้ดังนี้ครับ

1. UI สำหรับ iOS ไฉไลกว่าเดิม จนต้องร้องว้าว
2. รองรับการรัน Dart ในโหมดแบ๊คกราวน์ (Background Mode)
3. ลดขนาด package สำหรับ iOS และ Android
4. ความนิยมของ Flutter และตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่เอา Flutter ไปใช้จริงแล้ว

1. UI สำหรับ iOS ไฉไลกว่าเดิม จนต้องร้องว้าว

สำหรับใครก็ตามที่ติดตามพลหลังจาก Google ออก Flutter Release Preview 1 มา จะเห็นว่าตัว documentation ในส่วนของ iOS ที่มีชื่อ UI ว่า Cupertino นั้นไม่ได้มีรายละเอียดมากเท่าฝั่ง Material App ของ Android

พวกเรามาอ้อ กับตอนนี้ที่ Google ยกเครื่องเซ็ต Widget ของ Flutter ฝั่ง iOS มาเต็บสูบใน Release Preview 2 นี่เอง

เรียกได้ว่าจัดมาให้ชื่นใจ โดยเฉพาะความเนียนในอนิเมชั่นต่างๆ เช่นการเปลี่ยนหน้า (Transition) ที่โค้ชพลลองแล้ว ทำออกมาได้น่าประทับใจมาก

ซึ่งของใหม่ฝั่ง iOS ที่เพิ่มเข้ามามีดังนี้

• CupertinoApp อันนี้ฝั่งตรงข้ามกับ MaterialApp
• CupertinoTimePicker ตัวเลือก Timer สไตล์ iOS
• CupertinoSegmentControl ตัวคุม Segment
• CupertinoActionSheet ตัวแสดง Pop up sheet ที่โชว์จากด้านล่าง

ส่วนกลุ่มที่ได้รับการอัพเดตมีดังนี้ครับ

• CupertinoNavigationBar and CupertinoSliverNavigationBar
• CupertinoPageScaffold
• CupertinoScrollbar
• CupertinoPicker

2. รองรับการรัน Dart ในโหมดแบ๊คกราวน์ (Background Mode)

โค้ชพลค่อนข้างตื่นเต้นกับความสามารถนี้ เพราะมันเป็นความต้องการของนักพัฒนาหลายๆ คนที่อยากจะให้ตัวแอพพลิเคชั่นมันทำอะไรบางอย่าง แม้ว่าตัวแอพจะถูกซ่อน หรือสลับไปใช้แอพตัวอื่นแล้ว 

ซึ่งในเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ การจะทำอะไรแบบนี้ได้ ทำให้นักพัฒนาแอพสาย Flutter ต้องลงไปลุยโค้ด Native (ที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า Platform-specific code) ในแต่ละระบบ ทำให้งานมันเพิ่มขึ้นไปอีก

แต่เรื่องนั้นมันคืออดีตไปแล้ว เพราะตั้งแต่ Release Preview 2 การจัดการในโหมด Background ที่ว่านี้ ทำในส่วนของภาษา Dart ได้แล้ว

ซึ่งจะเป็นผลให้คนทำ Plugin นั้น สะดวกสบายมากขึ้น สนใจกดไปดูรายละเอียดเบื้องลึกที่นี่ได้เลย

3. ลดขนาด package สำหรับ iOS และ Android

เป็นเรื่องที่รองขอกันมาตั้งแต่ Flutter ยังไม่ขึ้น Release Preview 1 ก็มีเรื่องขนาดของไฟล์นี่แหละที่พูดกันมากที่สุด เพราะเมื่อเราทำแอพพลิเคชั่น ไฟล์สุดท้าย (เรียกกลางๆ ว่า Package, APK บน Android, IPA บน iOS) มักมีขนาดไฟล์ที่ค่อนข้างใหญ่

ซึ่งใน Release Preview 2 นี้ ทาง Google ได้ปรับกลไกในการสร้าง packge ทำให้ได้ขนาดไฟล์ที่ได้เล็กลงกว่าเดิมถึง 30% ทั้ง iOS และ Android

ทั้งนี้ทางทีมพัฒนา Google ยังบอกอีกว่า ใน iOS อาจจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจาก Android อิงจากกลไกในการสร้างไฟล์ IPA ของ App Store เองด้วยครับ (ประมาณว่า เราทำเต็มที่)​ แต่กลไกส่วนนี้ก็จะถูกปรับปรุงมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

4. ความนิยมของ Flutter และตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่เอา Flutter ไปใช้จริงแล้ว

อัพเดตจากก่อนหน้านี้ คำถามของพวกเราหลายๆ คนมักอยู่ที่ว่า

ตกลงตัวนี้ไปต่อได้ไกลไหม?

ชัวร์ป่าว?

(ตอนไปบรรยายงาน Mobile Conf 2018 ก็มีเพื่อนๆ สาย Native Android หลายคนเม้าท์ด้วยกันว่า ตกลง Google จะเอาไง? จะดัน Kotlin หรือ Dart กันแน่)

รอบนี้ Google ให้ข้อมูลเพิ่มเติม และชัดเจนกว่ารอบ Release Preview 1 ครับ

อย่างแรกคือ Flutter ขึ้นเป็น Top 50 ของโปรเจคยอดนิยมใน Github (ใครเขียน Vue บ้าง ขอเสียงหน่อยเฮ้!)

ในด้านแอพพลิเคชั่นตัวอย่างก็มีเปิดเผยเพิ่มเติม

• Alibaba (Android, iOS)
• Tencent Now (Android, iOS)
• Google Ads (Android, iOS)
• Xianyu app (Android, iOS),

อันนี้ Showcase แอพ Xianyu ของ Alibaba

เนื้อหาเกี่ยวกับ Flutter ใน StackOverview ก็สูงขึ้นมาก

แถมยังมีการสอบถามไปยังนักพัฒนาถึงความรู้สึกต่อ Flutter

• 92% พอใจในตัว Flutter และแนะนำให้คนอื่นๆ ใช้
• 79% บอกว่า Flutter มีประโยชน์มากในการสร้าง UI ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
• 82% พอในในตัวภาษา Dart

สรุป Flutter Release Preview 2

ถ้าให้โค้ชพลสรุปคร่าวๆ อัพเดตครั้งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพของ Flutter โดยรวม

1. ปล่อย UI ฝั่ง iOS มากขึ้น
2. รองรับการเขียน Dart เพื่อจัดการงานในส่วน Background Mode
3. ลดขนาดตัว package
4. ขายของ (ฮาๆๆ)

สนใจติดตามอัพเดต จากโค้ชพลได้ทาง Facebook และ Youtube ครับ

อ้างอิง – Google Blog, Venture Beat, Google Developer Video