Microsoft

สรุป 7 เรื่องเด็ดของ Microsoft Build 2017 วันที่ 1

เรื่องที่เกี่ยวข้อง - Microsoft, Microsoft Azure, Microsoft Bot Framework, Microsoft Cognitive Service

เมื่อวานใครได้นั่งดู Live งาน Microsoft Build ที่โค้ชพลเอามาแปะไว้ในเพจ น่าจะได้วู้วว้าวไปด้วยกัน

แต่พลคิดว่า ถ้าได้มานั่งสรุปเรื่องเด่นๆ ในงาน Microsoft Build เมื่อวานล่ะก็ น่าจะทำให้เรามองภาพรวมของงานออกได้ง่าย และที่สำคัญคือคนที่ไม่ได้ดู Live ก็จะได้ตามทันด้วย

จึงเป็นที่มาของโพสนี่ครับ มาไล่ดูกันเลย

1. ปลั๊กอินแปลภาษาใน PowerPoint

ในงานมีการเปิดตัวส่วนเสริมของ PowerPoint ที่แสดงความสามารถของ Translation API ของ Microsoft ซึ่งความสามารถของมันคือการอ่านเนื้อหาในสไลด์นำเสนอของเรา และแปลเป็นภาษาต่างๆ ได้ถึง 10 ภาษา

ภาษาพวกนี้ เช่น อราบิก, จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, และสเปน นอกจากนี้ยังมีการสร้างคำบรรยายที่เหมาะสมสำหรับผู้มีปัญหาทางการรับฟังเสียงด้วย

ส่วนตัวมองว่า ปลั๊กอินตัวนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำ Microsoft Translation API มาใช้งานจริงครับ ถ้ามีภาษาไทยเร็วๆ นี้ก็ดีสิ

ในอีกทางหนึ่งถ้า Google เห็นความสามารถนี้แล้ว ไม่แน่ฝั่งของ Google G Suite อาจจะเอา Google Tranlate API มาใช้กับ Google Slides ก็ได้

2. การสาธิต AI ในการทำงานจริง

ในหัวข้อ Keeping Workplaces safe with AI นี่เป็นการย้ำถึงการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในชีวิตการทำงานจริงๆ โดยมีการรวมเทคโนโลยีหลายๆ ส่วนที่ Microsoft เปิดให้บริการ (ตรงนี้เดี๋ยวจะคุยแยกเรื่องยุทธศาสตร์ของ Microsoft อีกทีทางเพจ) เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตในสภาพแวดล้อมทำงาน

เทคโนโลยีที่ใช้ก็มี

  • Azure stack
  • Azure IoT Edge
  • Microsoft Cognitive Services

ตัวอย่างที่พลชอบมาก คือการใช้ระบบจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ตรวจสอบคนงานในพื้นที่ เพื่อหาคนที่เป็นพนักงานใหม่, กำหนดสิทธิ์การใช้อุปกรณ์ในพื้นที่, และระบบจะแจ้งเตือนถ้าคนงานที่ไม่มีสิทธิ์ ได้หยิบใช้อุปกรณ์อันตราย

ถ้าเราเคยดูหนังไซไฟอนาคตที่มีคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ มองดู และวิเคราะห์มนุษย์ผ่านกล้องวงจรปิดต่างๆ พลว่ามันใกล้เข้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้วครับ

3. Cortana สำหรับทุกคน

ในเดือนธันวาคม ทาง Microsoft ให้สัญญาว่า จะเปิดให้นักพัฒนาสามารถ “สอน” Cortana ให้เรียนรู้ และทำงานกับคำสั่งใหม่ๆ ได้ ผ่าน Hubs, อุปกรณ์พกพา หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์

โดย Microsoft ยังเปิดให้นักพัฒนาเรียกใช้ code ต่างๆ ที่ Microsoft สร้างใช้งานกับ Alexa (ชื่อ AI ของ Amazon) หรือ Microsoft Bot Framework ได้อีกด้วย

พลได้สอนวิธีสร้าง Facebook Chatbot ด้วย Microsoft Bot Framework ไว้ที่นี่ ถ้าสนใจก็ลองไปลุยกันได้

4. ฟรี Visual Studio for macOS

ก่อนหน้านี้ Microsoft ได้เข้าซื้อ Xamarin และได้นำโครงสร้างของโปรแกรม Xamarin Studio มาใช้กับ Visual Studio for macOS ได้สักพัก ก่อนที่จะเปิดตัวในเดือนธันวาคม และประกาศเวอร์ชั่นปัจจุบันให้ดาวน์โหลดในงาน Microsoft Build 2017

โดยหลักๆ แล้ว โปรเจคที่ Visual Studio for macOS รองรับมีดังนี้

  • Xamarin.Forms
  • Xamarin.iOS
  • Xamarin.Android
  • .NET Core
  • ASP.NET Core
  • Mac Application (รองรับทั้งเกมส์ และ Application)
  • tvOS

โดยเน้นไปที่การพัฒนาตัวโปรแกรม และแอพพลิเคชั่นด้วย ภาษา C#.NET และ F# ครับ

พลได้ทำวิดีโอรีวิวก่อนหน้านี้ที่ YouTube Channel ถ้าสนใจไปลองดูได้ ถ้าสนใจก็สามารถดาวน์โหลด Visual Studio for macOS ที่นี่

5. เปิดตัว Mobile Application สำหรับคนใช้ Azure

ในส่วนของ Microsoft Azure ก็ได้มีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์พกพาทั้ง iOS และ Android ในการควบคุม และเฝ้าดูการทำงานของบริการที่เราใช้งานบน Azure

และจากเห็น Microsoft ทำการบ้านมาดีมาก ตัวแอพพลิเคชั่นมีรายงานการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ และแจ้งเตือนข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการรีสตาร์ท Virtual Machine ได้อีกด้วย

ส่วนตัวพลมองว่าเจ้า Azure Mobile App นี้เหมือนเครื่องมือควบคุมการทำงาน ไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนของการพัฒนาระบบเท่าไหร่นัก แต่หากเราใช้ Azure ก็คงต้องมีประจำมือถือของเราแน่นอน

6. สร้าง AI Model ได้เร็วกว่าเดิม

คำว่า AI ในยุคปัจจุบันนั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และช่วงเวลาที่เราอยู่ช่วงที่เครื่องมือต่างๆ กำลังพัฒนาและเปิดตัวออกมาอำนวยความสะดวกให้เราใช้งาน ในส่วนของ Microsoft นั้นก็มีบริการที่เรียกว่า Cognitive Service อยู่ครับ

หนึ่งในความท้าทายของการนำ AI มาใช้งานในระบบ คือการ “สอน” ครับ และคล้ายๆ กับการเรียนของมนุษย์อย่างเราๆ มันต้องใช้เวลา บางทีใช้เวลาหลายวัน, หลายสัปดาห์, หรือหลายเดือน เพื่อสร้างให้ AI มีวิธีคิด (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ AI model) ตรงตามท่ี่เราจะเอาไปใช้งาน

ในงาน Microsoft Build ได้มีการเปิดตัวเครื่องมือที่ชื่อว่า Custom Vision ที่เปิดโอกาสให้พวกเราสร้างระบบ AI ที่ใช้เวลาในการสอนน้อยกว่าแบบปกติ

เช่นหากต้องการวิเคราะห์ภาพ เราใช้จำนวนภาพไม่เกิน 2 – 3 โหลเท่านั้น ซึ่งปกติต้องใช้จำนวนรูปภาพมหาศาลเลยทีเดียว

ซึ่งบริการอื่นๆ ที่เปิดตัวมาในชุด Microsoft Cognitive Services ก็ได้แก่

  • Bing Custom Search
  • Custom Vision Service (ตามที่คุยไว้ด้านบน)
  • Custom Decision Service
  • Video Indexer

นอกจากนี้ยังมี Cognitive Service Labs ที่เปิดตัวมาเพื่อให้เป็นที่ทดลองใช้บริการต่างๆ อย่าง Gusture API ด้วย

เดี๋ยวขอลองก่อนแล้วจะมาคุยกันเนอะ

7. Azure Cosmos DB ระบบฐานข้อมูลพลัง Azure รองรับ IoT จำนวนมหาศาล

ในส่วนของระบบจัดการข้อมูล Microsoft เปิดตัว Azure Cosmos DB ที่หมายรองรับตลาดที่ต้องทำงานกับข้อมูลมหาศาลตั้งแต่ IoT จนถึง AI

นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ๆ และที่ถูกปรับปรุงหลายตัว เช่น

  • MySQL และ PostgreSQL-managed services เปิดให้เลือกใช้ใน Azure SQL Database
  • Database Migration Service รองรับการโอนย้ายข้อมูลจากฐานข้อมูล Oracle และ SQL Server

จบ Keynote วันที่ 1

นั่นเป็นส่วนของ Microsoft Build 2017 วันที่ 1 จริงๆ มีเรื่องของ Harma-kardon ที่ทำงานกับระบบ Cortana ด้วย แต่อันนั้นดูเป็น showcase มากกว่า เดี๋ยวน่าจะมีคนรีวิวล่ะ แล้วพบกันในช่วงต่อไปครับ

อ้างอิง – Microsoft Live Video, The Next Web, digit

เริ่มต้นยุค AI ด้วยคอร์สฟรี และพรีเมี่ยม กับพล

หากชอบสิ่งที่พลเล่า เรื่องที่พลสอน สามารถสนับสนุนพลโดยการเข้าเรียนคอร์สออนไลน์ของพลนะคร้าบ

  • เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง ออกแบบการสอนอย่างเข้าใจโดยโค้ชพล
  • มีคอร์สสำหรับคนใช้งานทั่วไป จนถึงเรียนรู้เพื่อใช้งานในสายอาชีพขั้นสูง
  • ทุกคอร์สมีใบประกาศณียบัตรรับรองหลังเรียนจบ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save