โลกของ Web Motion (หรือที่บางคนเรียกว่า Web Animation) จะพัฒนาไปอีกระดับได้อย่างไร?
คำตอบนั้นมีการบอกใบ้มาจาก Adobe ได้สักระยะแล้ว โดยการส่ง Adobe Egde Preview, Adobe Shadow, และ PhoneGap Build Beta ออกมาให้พวกเราทดลองใช้กัน ซึ่งเสียงตอบรับก็ออกมาดีมากทีเดียว
ในวันนี้เองที่ Adobe ได้ทำการเผย “ชุด” เครื่องมือใหม่ ที่จะทำการยกระดับการสร้างสรรค์ผลงานบนโลกของ Web ขึ้นไปอีกระดับ ผมจึงอยากให้ทุกคนรู้จัก Adobe Edge Tool & Service กันครับ
ก่อนที่จะมาเป็น Adobe Edge Tool & Service
Adobe Edge เป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องมือสร้าง Web Interactive Content และ Web motion (ซึ่งหลายๆ คนคาดว่ามันจะมาแทนที่ Flash ในที่สุด) เดิมทีใช้ชื่ออ Adobe Edge Preview ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Adobe Edge Animate ที่อยู่ในชุด Adobe Edge Tool & Service อีกที
ซึ่งตรงนี้ทำให้ Adobe Edge ไม่ได้ไปกำหนดอยู่กับเครื่องมือตัวเดียว แต่กลับเป็นชุดเครื่องมือที่รวมเอาความสามารถเฉพาะด้านหลายๆ อย่าง ที่จะกลายมาเป็นส่วนปฏิวัติเครื่องมือการออกแบบ Web Content กันเลย เหมือนตอนแรกโผล่มาแค่ไขควง แต่ตอนนี้มาทั้งค้อน ตะปู มีดพกสวิส รวมมาในกล่องสวยหรู ที่แปะชื่อ Adobe Creative Cloud พร้อมให้ทุกคนเข้าไปสมัครแล้วนำมาใช้งาน
ทำไมถึงต้องเป็น Adobe Edge Tool & service?
โดยเป้าหมายหลักของ Adobe Edge Tool & Service สรุปดังนี้ครับ
- สร้าง content ที่พร้อมทำงานบน Mobile device และ Mobile application
- ใช้พลังจาก HTML5 และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง พร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- เป็นเครื่องมือเฉพาะทาง (ซึ่งคงไม่พ้น Rich Interactive และพวก Web Motion) แต่ก็สามารถส่งต่องานไปสู่เครื่องมืออื่นๆ ของ Adobe ได้ด้วย
- เพิ่ม Productivity ในการทำงาน
- ให้อิสระต่อผู้ใช้ในการเลือกใช้ framework อื่นๆ
มีอะไรบ้างใน Adobe Edge Tool?
ในชุดเครื่องมือ Adobe Edge Tool & service จะประกอบไปด้วย…
- Edge Animate CC (ที่รู้จักกันมานานในชื่อ Adobe Edge Preview)
- Adobe Edge Reflow CC
- Bracket & Edge Code CC
- Edge Inspect CC (รู้จักกันมาก่อนในชื่อ Adobe Shadow)
- Edge Web Font & TypeKit
- PhoneGap และ PhoneGap Build
Adobe Edge Tool & Services กับ Adobe Creative Cloud
เดิมทีเราจะคุ้นเคยกับการทำงานบนโปรแกรมของ Adobe แบบซื้อมาติดตั้งในเครื่อง ใช้งาน แล้วก็ส่งไฟล์ให้ลูกค้า หรือทำงานร่วมกันฝ่าน email หรือไม่ก๊อปปี้ไฟล์ใส่ thumb drive
ซึ่งการทำงานแบบนี้ ก็สามารถทำงานได้ แต่ Adobe คิดว่ามีระบบการทำงานที่ดีกว่านี้อีก และนำเสนอในรูปแบบบริการที่ชื่อว่า Adobe Creative Cloud และ Adobe Edge Tool & Service ก็เป็นชุดเครื่องมือที่ทำงานกับ Adobe Creative Cloud อย่างชัดเจนทีเดียว
นั่นคือ การ download และติดตั้งตัวโปรแกรมในชุด Adobe Edge Tools สามารถทำได้ผ่านส่วน Application dashboard ของบัญชีผู้ใช้ Adobe Creative Cloud ซึ่งมันเหมือนกับการ download mobile application จาก App Store ในอุปกรณ์ Smart phone และ Tablet เลยทีเดียว
นอกจากนั้น บริการเกือบทั้งหมดดของ Adobe Edge Tool & Service อย่างเช่น TypeKit และ PhoneGap Build ก็สามารถเข้าถึงได้จาก Adobe Creative Cloud และต้องอาศัยบัญชีผู้ใช้ของคุณนี่แหละ
ไม่งั้นอด
จะใช้งาน Adobe Edge Tool & Service ได้อย่างไร?
อย่างที่แจ้งไว้ว่า Adobe ดึง Adobe Edge Tools & Service มารวมกับ Adobe Creative Cloud อย่างชัดเจน (แทนที่จะขายเป็นกล่องแยกต่างหาก เหมือน Adobe Creative Suite) การที่จะสามารถ download และใช้บริการนั้น ต้องทำผ่านบัญชีผู้ใช้ Adobe Creative Cloud ครับ
สามารถดู video การสมัคร Adobe Creative Cloud สำหรับผู้เริ่มต้นได้ที่นี่
ขอให้มีความสุขกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ครับ